วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บทบาทของชีวิต

เราเคยเห็นข่าวในโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างฯมากมายในคดีที่ทำร้ายร่างกาย ที่เรียกว่าเป็นคดีอาชญากรรมมากมายนักในแต่ละวันในคดีที่เป็นเด็ก และเยาวชนก็ไม่ใช่น้อยกว่าคดีผู้ใหญ่ซึ่งเป็นพื้นฐานในการกระทำผิดที่จะต่อยอดไปถึงอนาคตซึ่งน่ากลัวอยู่มากการกระทำดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก
บางคนไม่มีความรู้สึกต่อการกระทำ
บางคนคิดว่าเป็นความสะใจของตนเอง
บางคนคิดว่าเป็นเรื่องศักดิ์ศรี
บางคนคิดว่าการจะเป็นใหญ่ให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มของตนต้องแสดงพลังความเป็นนักเลงออกมาให้คนเกิดความกลัวและพร้อมที่จะยอมรับ
บางคนก็คิดว่าเป็นเกมชีวิต
บางคนก็ทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ฯลฯ
แต่เราทุกคนก็ล้วนมีบทบาทการแสดงกันทุกคนแล้วแต่จะเลือกบทบาทไหนที่ตนเองชื่นชอบ โดยไม่แยกแยะ คิดว่าตนเองกำลังมีความสุขอยู่ในบทบาทการแสดงนั้น โดยหลงลืมไปว่าเราทุกคนเกิดมาในฐานะเป็นมนุษย์ล้วนจะต้องสร้างบทบาทหรือเลือกจะเล่นบทชีวิตไหนก็ตามเราก็ไม่สามารถจะหลีกหนีกฎ และกฎแห่งกรรมไปได้ ซึ่งจะต้องประกอบไปด้วย กฎ กติกา ระเบียบ มารยาท ในความเป็นจริง นั่นก็คือ กฎแห่งกรรม กฎแห่งวัฎจักร กฎแห่งความไม่เที่ยงแท้แน่นอนอันได้แก่
๑ เราทำกรรมใดไว้กรรมนั้นก็เป็นของตนไม่ว่า จะกรรมดี หรือ กรรมชั่ว
๒ เราทุกคนย่อมไม่หลุดพ้นแห่งความตายได้
๓ เราทุกคนย่อมจะต้องประสบทั้งสุข และทุกข์อันเป็นกฎแห่งธรรมของชีวิต
๔กฎแห่งความไม่เที่ยงแท้แน่นอนคือการเกิด แก่ เจ็บ ตาย
นอกจากเราจะต้องพบกับกฎแห่งสังคมคือ กฎหมาย และกฎแห่งธรรมแล้ว หากเรารู้เท่าทันในกติกาเหล่านั้น เราก็สามารถจะเลือกหาชีวิตที่ดีได้โดยเลือกบทบาทที่ดีแสดง และพัฒนาการแสดงให้เป็นมืออาชีพและประสบความสำเร็จในการแสดงได้.

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ปิดประตูอดีต

เมื่อเราเปิดประตูบ้านเข้าไปถ้าหากพบว่าบ้านนั้นสวยงาม สะอาดก็อยากเดินเข้าไปเพราะว่าบ้านนั้นคงจะมีความสุข แต่ถ้าเปิดประตูเข้าไปพบว่าบ้านนั้นไม่สะอาด สกปรก มีฝุ่นละอองมากเราคิดว่าถ้าหากเข้าไปแล้วคงจะไม่มีความสุข และอาจจะทำให้ตัวเราไม่สบายได้
ไม่ว่าความสะอาด ความสกปรก เราสามารถทำความสะอาดได้ เปรียบเหมือนจิตใจของคนเรา ถ้าหากเรามีความสุข ก็เปรียบได้กับบ้านที่สะอาด ถ้าหากเรามีความทุกข์ก็เปรียบเหมือนบ้านที่สกปรก ทุกสิ่ง ทุกอย่างอยู่ที่ใจของเราเอง ถ้าหากจิตใจเรามีแต่ความห่อเหี่ยว ท้อแท้ เศร้าซึม ทุกข์ใจ เสียใจ หรือคับแค้นใจ จากที่เคยได้รับมาแต่ในอดีต ในวัยเด็กและเก็บไว้แน่นโดยไม่ยอมปลดปล่อยให้ออกไปจึงเป็นคนที่ไม่เคยมีความสุข
เราอาจจะไม่มีความสุขในอดีต แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาอดีตมาทำลายตัวเราไม่ให้มีความสุขในปัจจุบัน ความวิตกกังวลความคิดที่เป็นลบ จะคอยบั่นทอนจิตใจและความรู้สึกที่จะนำความทุกข์มาให้ตัวเองล่วงหน้า
เราควรปรับ เปลี่ยนตัวเองให้มีความสุขโดยการคิดที่ดีที่เป็นบวก
๑ ฝึกการให้ความรู้สึกที่ดีแก่ตนเอง และผู้อื่น โดยยึดหลักการให้อภัยถึงแม้ว่าจะทำได้ยากก็ควรฝึกที่จะให้อภัยเขาและตัวเราควรฝึกบ่อยฯเมื่อมีความรู้สึกเจ็บช้ำในอดีตเกิดขึ้นมา
๒ไม่วิตกกังวลอะไรล่วงหน้าเมื่อเกิดมีความคิดขึ้นมา จงหยุดคิดสร้างสติให้เกิดเท่าทันในความคิดนั้นจงมองความคิดที่เป็นปัจจุบัน หรือถ้าจะคิดก็ต้องคิดแบบมีเหตุและผล
๓เลิกตำหนิตนเอง และจงมองตนเองให้มีคุณค่า
๔ เลิกท้อแท้ และสิ้นหวัง หรือคอยคิดว่าไม่มีความสามารถหรือคิดว่าทำอะไรก็ผิดพลาดตลอด ต้องคิดอยู่เสมอว่าเราต้องทำได้และจะพยายามทำให้ดีที่สุด
“อยากจะให้คิดอยู่เสมอว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงและสร้างอนาคตของตัวเราเองได้ด้วยตัวของเราเอง”

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

ตายแล้วไปไหน

ยังเป็นสิ่งที่มีหลายความคิดเห็น หรือบางท่านก็มาเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาจาการที่ฟื้นขึ้นมาหลังจากที่หลายคนดิดว่าตายแล้ว แต่ก็ยังเป็นข้อถกเถียงกันมานาน ในด้านศาสนาเราต่างก็อยากจะรู้ว่าเมื่อจิตดับลงแล้วไปไหน จะเป็นไปตามที่ได้ยินได้ฟังกันมาหรือไม่
แต่พอสรุปได้ว่า มนุษย์เรานั้นเกิดมาเพื่อชดใช้กรรมที่ตนได้เคยกระทำมาแล้วในอดีตที่เราได้เคยสร้างกรรมดีหรือกรรมชั่วไว้อย่างใดบ้าง เพราะเมื่อเราตายไปแล้วจิตวิญญาณเรายังคงอยู่เพื่อที่จะเสวยสุขหรือทุกข์ตามกรรมที่ได้กระทำเมื่อยังมีชีวิตอยู่
ถ้าหากเราทำกรรมดี คือ ผลบุญที่จะส่งผลให้เราไปเกิดในสุคติ
ถ้าหากทำกรรมชั่ว คือ บาปกรรมก็เป็นผลให้เราไปเกิดในอบายภูมิ ๔ ภูมิคือ นรก เปรต อสุรกาย หรือ สัตว์เดรัจฉาน
ดังนั้นเมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ควรจะเร่งทำความดี เพื่อที่จะเป็นสเบียงเดินทางสำหรับจิต วิญญาณของเราเมื่อเวลานั้นมาถึง

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ความเมตตา

คนเราเกิดมามีชีวิตเดียว เวลาจากไปบนโลกใบนี้ก็มีชีวิตเดียวอยากจะถามว่าในช่วงตั้งแต่เกิดมา จนถึงเวลาที่ต้องจากไปจากโลกใบนี้นั้น เราเคยทำอะไรบ้างที่มีประโยชน์ที่ทำให้เรามีความรู้สึกสุขใจ ทุกครั้งที่นึกขึ้นมา
เคยมีภาพยนตร์ประกอบการโฆษณาที่กล่าวถึงผู้หญิงคนหนึ่งเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่เธอไม่กลัวความตาย แต่กลัวที่จะไม่ได้ทำความดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เธอได้นำเด็กๆที่ขาดความอบอุ่นมาดูแลสอนหนังสือ ให้ความสุข และชี้ทางที่ดีให้แก่เขาเหล่านั้น
ทำให้คิดว่าความดี ความเมตตา คนเรานั้นสามารถทำได้ทุกเวลา ทุกขณะจิตที่คิดจะทำ ความดี ไม่มีวันตาย ไม่มีวันหมดอายุ
ดังนั้นถ้าเราคิดว่า การทำความดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันให้เขามีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยในทางที่ถูกที่ควรแล้ว ย่อมถือว่าเราไม่ได้แค่ทำความดีเพื่อตนเอง แต่เราทำความดีเพื่อสังคม และประเทศชาติ

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สัจธรรมแห่งชีวิต

คนเราเกิดมาคงหนีไม่พ้นความตายไปได้ และก็ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฎนี้อีก จากภพหนึ่ง ไปยังอีกภพหนึ่งโดยมีบุญ บาปเป็นเครื่องนำทางไปชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนเราไม่สามารถจะรู้ว่าวันไหนเวลาไหนจะมาถึงชีวิตเรา แต่สิ่งที่เรารู้ตัวดีคือวันนี้เราทำความดีอะไรบ้างเผื่อว่าวันพรุ่งนี้อาจจะสายไป
สัจธรรมที่แท้จริงของชีวิตก็คือ “ ๔ คนหาม ๓ คนแห่ ๑ คนนั่ง ๒ คนตาม หมายความว่า
๔คนหาม ก็คือสภาวะของความเป็นมนุษย์ได้แก่ การเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย
๓ คนแห่ ก็คือความจริงแห่งพระไตรลักษณ์ คืออนิจจัง ความไม่เที่ยง ทุกขัง ความทุกข์ อนัตตา ความว่างเปล่าไม่มีตัวตน
๑ คนนั่ง ก็คือตัวเรา
๒ คนตาม ก็คือบุญ บาป
ณวันนี้เราทำอะไรที่เป็นความดี เป็นบุญ เป็นกุศลแล้วหรือยัง เพราะคงไม่มีอะไรจะติดตามเราไปได้ทุกที่ นอกจากบุญ บาป

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ความรักหรือความหลง

อยากจะถามท่านทั้งหลายว่า”ความรักคืออะไร” หลายคนคงตอบว่า ความรักก็คือความสุขที่ได้รักแต่ความสุขในความรักนั้นก็คือความทุกข์ที่ซ่อนเร้นในอารมณ์ของตนเอง แบบร้อนแรงในอารมณ์ของความหึงหวง การโกรธงอนกัน การพลัดพราก หรือการแสดงความเป็นเจ้าของมากเกินไปจนเกิดความทุกข์มากกว่าความสุข
ความรักที่ดี นอกจากจะให้ความสุขทางใจแล้ว ควรจะเป็นยาบำรุงหัวใจ หรือกำลังใจให้มีพลังทำสิ่งที่ดีๆ เพื่อตัวเราเองและคนที่เรารักพร้อมทั้งคนอื่นๆด้วย เราควรจะนำความรักมาใช้ในทางที่ถูกต้อง
ไม่นำความหลงมาเหนือความรักทำให้หลงใหล บ้าคลั่ง หรือรักแบบผิดๆ
ความผิดหวัง หรือความไม่เข้าใจกันในความรัก มักจะทำให้คนเราขาดสติ หลงทาง ไม่เพียงแต่จะทำร้ายตัวเราเอง แต่ยังทำร้ายคนรอบข้างที่รักเราด้วยความบริสุทธิ์ใจ คือพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ที่ต้องเสียใจไปกับการกระทำที่โง่เขลา ขาดสติอย่างมากมาย
เราควรเอาชนะความหลงในรักด้วยสติ ปัญญาการใช้สติพิจารณาและ รู้จักไตร่ตรองว่า ความรักคืออะไร รักเพราะอะไร และใครคือคนที่เรารักและเราควรจะรักใครมากที่สุด.

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ปัญหาเด็กและเยาวชน

ปัญหาเด็กและเยาวชนที่เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด เพศ ปืน ลักขโมย การทะเลาะวิวาท การฆ่าฯลฯ
ทำไมเด็กเหล่านี้เมื่อเขาเติบโตขึ้นมามักจะต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสิ่งที่ดี และไม่มี ถ้าหากเรามองในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมักจะมองว่าเด็กเหล่านี้มักจะสร้างปัญหา ให้แก่สังคมแต่ถ้าหากเราเจาะให้ลงลึกไปแล้วจะพบว่า สิ่งที่ห่อหุ้มตัวเด็กอีกทีก็คือครอบครัว และสิ่งที่ห่อหุ้มครอบครัวก็คือ ชุมชน หรือ สิ่งแวดล้อมนั่นเอง
ปัญหาของเด็กและเยาวชนส่วนใหญ่นั้นมาจากครอบครัวที่ไม่รักกันของพ่อ แม่ ที่แยกทางกันแล้วทิ้งให้เด็กอยู่กับญาติฯลฯมักจะก่อให้เกิดปัญหาทางจิตใจเช่น
๑ การขาดความรัก โดยโหยหาความรักอาจจะแสดงออกการเรียกร้องความสนใจ การก้าวร้าวเป็นต้น
๒ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง เชื่อคนง่าย โดยไม่คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตนเองในวันข้างหน้า ชอบโกหก ชอบลักขโมย ขี้เกรียจ ใช้เงินเปลือง
๓มีอารมณ์รุนแรงในเวลาโกรธ
๔ ชอบวิตกกังวล น้อยใจ
สิ่งที่ควรแก้ไข
๑ควรให้เด็กรู้จักเป้าหมายของชีวิต ให้รู้จักคิดและค้นหาความต้องการของตนเองในอนาคต โดยให้เด็กรู้จักคิดเองโดยมีผู้ปกครองคอยชี้แนะหรือแนะนำแนวทาง
๒ให้มีความศรัทธาในความรักตัวเองและผู้อื่นในครอบครัวและสังคม
๓เสริมสร้างบุคคลิกภาพให้มีความเชื่อมั่นในตนเองให้เด็กสามารถพูดคุยปัญหาตนเองต่อพ่อ แม่หรือบุคคลในครอบครัวสร้างให้เขามีความภาคภูมิใจ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลภายนอก
๔การให้ลูกรู้จักแยกแยะในสิ่งที่ถูกและผิด
ครอบครัวเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการแก้ปัญหาดังนั้นการเข้าใจกัน การให้อภัยกัน และการแก้ปัญหาในทางบวกย่อมดีกว่าการแก้ปัญหาโดยใช้อารมณ์

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เดินไปข้างหน้า

คนเราเวลาเดินทางก็ต้องมองไปข้างหน้ากันทุกคน คงไม่มีใครจะเดินถอยหลังแล้วไปถึงจุดหมายเพราะ การเดินถอยหลังมีแต่จะเจ็บตัว
อดีตที่มีทั้งสุข และทุกข์ คนเราเกิดมาก็ต้องมีอดีตกันทุกคนคงไม่มีใครไม่เคยทำผิดหรอก แต่ถ้าหากเราเอาอดีตที่เป็นของเรา หรือ บุคคลรอบข้างที่ประสบเจอมาเป็นบทเรียนให้วิเคราะห์ทบทวนการกระทำ เพื่อเป็นแนวทางการวางแผนในอนาคตได้อย่างระมัดระวัง
ดังมีคำกล่าวไว้ให้ได้ยินอยู่เสมอฯว่า
ชีวิต คือ การต่อสู้
ศัตรู คือ ยากำลัง
อุปสรรค คือ ความสำเร็จ
เพราะบทเรียนที่ผ่านมาเปรียบเสมอครูที่สอนเราให้ไม่พลาดอีก คนที่ฉลาดมักจะเอาอดีต มาเป็นครูเพื่อจะไม่ให้กลับไปทำซ้ำอีก เพราะความรู้สึกเสียใจและทุกข์ที่เกิดจากเหตุทั้งหลายนั้น คนที่เสียใจมากที่สุดคือตัวเราเอง และบุคคลรอบข้างที่รักและห่วงใยเรา
ดังนั้นจงอย่างเสียเวลาเอาอดีตมาตอกย้ำตัวเองเพราะการคิดวนเวียนอยู่แบบเดิมฯมีแต่จะสร้างความเจ็บปวด
จงคิดให้ดีเถอะนะว่า อยากจะเดินไปข้างหน้า หรืออยากจะเดินถอยหลัง ชีวิตเป็นของเราฯจึงมีสิทธิเลือก เลือกในสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเรา

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

พี่คนโต

ความรู้สึกของบุคคลที่เป็นพ่อ แม่ เมื่อรับรู้ว่ากำลังจะมีลูกคนแรกในความรู้สึกคงจะตื่นเต้นมาก แต่ต่อมาอีกไม่นานคุณแม่ก็มีน้องใหม่ซึ่งอายุไม่ห่างกันมากแต่ก็คงดีใจไม่แตกต่างกันกับลูกคนโต แต่คุณพ่อ คุณแม่อาจจะไม่รู้ว่าหัวใจดวงน้อยฯของคนที่เป็นพี่กำลังจะประสบปัญหาทางจิตใจคือความอิจฉาน้องบ้าง ถึงแม้คุณแม่จะเตรียมตัวมาอย่างดีก็อาจจะมีบ้างในความรู้สึกเกิดอาการน้อยใจและอิจฉาน้อง
เพราะเมื่อคุณแม่มีน้องใหม่ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จึงต้องแบ่งเวลาออกไปเพื่อดูแลน้องเพราะคิดว่าลูกคนแรกเขาโตพอที่จะรับรู้และช่วยเหลือตนเองได้บ้างแล้ว แต่ในทางตรงกันข้ามเขาอาจจะกลายเป็นเด็กงอแงยิ่งเสียกว่าน้องได้ เนื่องจากลูกคนโตมีความรู้สึกว่าความรัก การดูแลเอาใจใส่ถูกแบ่งปันออกไปให้น้อง และบุคคลรอบข้างอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจจะทำให้เขาน้อยใจหรือมีความรู้สึกเกิดความอิจฉาขึ้นมาทันที
ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ต้องระมัดระวังในคำพูด กริยาท่าทางควรจะสนใจจิตใจของลูกทุกฯคนไม่ว่าจะเป็นคนที่เท่าใดก็ตามควรจะพูดคุยกับลูก ให้ลูกได้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงน้อง และพยายามให้ลูกได้มีบทบาท หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมการสนทนาเช่น เมื่อมีการถามถึงน้องหรือใครช่วยดูแลน้องคุณแม่ก็ควรให้คนที่เป็นพี่ได้มีบทบาทเช่นบอกว่า ช่วยกันดูแล พี่เขาช่วยหยิบขวดนมให้น้อง ห่มผ้าให้น้อง ซึ่งคำพูดหรือการบอกเล่าถึงความสำคัญของคนที่เป็นพี่เขาจะมีความรู้สึกภูมิใจ และมีความรู้สึกว่าเขาได้มีความสำคัญในการดูแลน้อง ความห่วงใย ความผูกพันก็จะเพิ่มมากขึ้น เพื่อมิให้เขารู้สึกน้อยใจ หรือคิดว่าตนเองสูญเสียความรักไป เพราะรากฐานของเด็กก็คือครอบครัวนั่นเอง ที่จะนำพาให้ชีวิต และอนาคตของเขาจะก้าวไปข้างหน้า หรือถอยหลังนั่นเอง.

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

แล้วมันจะผ่านพ้นไปเช่นกัน

บางครั้งข้อเตือนใจ หรือคำสอนที่มีคุณค่ามักจะมีผลต่อจิตใจของเรา ในเวลาบางครั้งที่อยู่ในระหว่างเวลาซึมเศร้าซึ่งในเวลานี้ก็เปรียบสเมือนการหาทางออกในอารมณ์ไม่ได้ ประตูแห่งความนึกคิดอารมณ์แห่งความท้อแท้ได้ถูกปิดลง ดังนั้นมันจึงวนเวียนอยู่ในกรงของความนึกคิดในวงแคบที่หาทางออกไม่ได้
วันหนึ่งได้มีบทความสั้นแห่งหลักธรรมคำสอนของครูบาอาจารย์ท่านได้กล่าวไว้สั้นฯว่า "แล้วมันจะผ่านพ้นไปเช่นกัน"คำกล่าวประโยคนี้หากเราพิจารณาดูให้ดีจะพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อมีเกิดก็ต้องมีดับไม่มีอะไรจะอยู่คงทนตลอดไป หากเราตระหนักถึงสัจธรรมของคำเหล่านี้เวลาจองจำของเราก็จะสิ้นสุดลงคุกแห่งอารมณ์ก็จะหลุดพ้นไปเช่นกัน เมื่อเรามีชีวิตใหม่ก็ขอให้เราตรึงตรองในข้อความนี้ไว้เสมอเป็นข้อเตือนใจทุกเวลา ทุกขณะจิตไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะการณ์ใดก็ตามไม่ว่าสุข ทุกข์ หรือท้อแท้ฯลฯ ก็ขอให้ระลึกไว้เสมอว่า "แล้วมันจะผ่านพ้นไปเช่นกัน" มันไม่นานเกินรอถ้าหากเราคิดต่อสู้ชีวิตและใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เพราะทุกสิ่งไม่มีอะไรจะอยู่คงที่ตลอดไปมันคงต้องเป็นไปตามวัฎจักรแห่งชีวิตนั่นคือ เมื่อมีเกิดก็ต้องมีดับเป็นธรรมดา

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา

อุปสรรคที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม มักจะทำให้เกิดความหดหู่ ท้อแท้หมดหวังเพราะคิดว่าตนเองไม่อาจจะประสบความสำเร็จได้ ในทางมุมกลับถ้าหากเรามองให้เห้นว่าไม่ว่าปัญหา อุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ดี นั่นคือทำให้เรารู้ถึงความข้อดี ข้อเสียในตนเองทำให้เกิดความเข็มแข็ง อดทนยิ่งขึ้น
ไม่ว่าอุปสรรค ปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าหากเราเก็บมาคิด มาเป็นอารมณ์ จะทำให้หมดกำลังใจที่จะต่อสู้ แต่ถ้าหากเรามีจุดมุ่งหมาย เป้าหมายใน ชีวิตเราจะไม่ยอมแพ้ และจะสู้เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายให้ได้
การที่คนเราผ่านพ้นอุปสรรค ปัญหามาได้ ย่อมจะเกิดภูมิคุ้มกันชีวิตและรู้ถึงวิธีแก้ไขถ้าหากเราต้องปประสบพบเจออีก โดยเอาอดีตมาเป็นบทเรียน และพร้อมที่จะแก้ไข โดยที่จะรอบคอบมากขึ้นในปัญหาและรู้จักคิดวิธีป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีกได้
อยากจะให้คิดว่าทุกสิ่ง ทุกอย่างเกิดขึ้นอยู่กับจิตใจของเราเอง หากจิตใจเราเข้มแข็งก็ไม่หวาดหวั่นกับปัญหาที่จะพบเจอ และไม่กลัวที่จะเริ่มต้นใหม่ด้วยใจที่ท้าทาย

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

สื่อทางตา

มีคำกล่าวว่าดวงตาเป็นหน้าต่างแห่งหัวใจ ดังนั้นการมองตาย่อมเป็นสื่อที่บ่งบอกความรู้สึกของบุคคลที่เรากำลังพูดคุยด้วยโดยเริ่มต้นค้นหาความรู้สึกจากบุคคลที่ใกล้ตัวก่อนคือภายในครอบครัวของเราเอง ถ้าหากพ่อ แม่ และลูกหันหน้ามาพูดคุยกันย่อมรู้ถึงปัญหาที่ก่อเกิดในใจของแต่ละคนได้เช่นการที่พ่อ แม่รับฟังลูก มองหน้าลูกสิ่งที่ควรกระทำคือการหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่และหันมาสนใจและรับฟังในสิ่งที่ลูกพูด โดยใช้สายตามองด้วยความจริงใจ สนใจที่จะรับฟังคำพูดของลูกด้วยความจริงจัง จะทำให้เกิดผลดีแก่ลูกที่กำลังเล่าให้ฟังโดยผู้เล่าจะมีความรู้สึกที่ดีอบอุ่น และมีความรู้สึกว่าพ่อแม่เข้าใจ และรับฟัง ลูกจะค่อยฯพูดออกมา แต่อาจะไม่หมด แต่ถ้าหากพ่อ แม่มีความสังเกตุในคำพูด และพยายามมองให้ถึงความคิด ท่าทาง กริยา ของลูกที่พูดคุยด้วยพ่อ แม่จะเข้าใจและคิดหาทางแก้ไขได้ทันทีถ้าหากลูกเกิดมีปัญหาขึ้นมาก่อนที่จะสายเกินไป.

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เทวดาผู้พิทักษ์

มีผู้ใหญ่ท่านกล่าวไว้ว่า คนเราเกิดมาทุกคนต้องมีเทวดาประจำตัวกันทุกคน เทวดาองค์นี้จะคอยพิทักษ์ดูแลตั้งแต่เกิดลืมตาดู
โลกไม่ว่าจะเจ็บ จะทุกข์ จะสุขเทวดาองค์นี้จะไม่ห่างกายไปไหนเลย
ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด เทวดาองค์นี้จะดูแลตลอดไปไม่รู้จักเหนื่อยเลยแล้วตัวเราล่ะเคยรู้หรือเปล่าว่าตลอดชีวิตเราที่มีชีวิตดูโลกมาเราเคยมองเห็นหรือเคยดูแลเทวดาของเราหรือเปล่าเคยห่วงใยท่านไหม ถ้าหากยังไม่เคยทำอะไรให้กับท่านละก้อจงเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่หันกลับไปมองดูจะพบสายตาคู่หนึ่งที่มองเราไม่ห่างเลยคือสายตาเทวดาของลูก
ณ วันนี้เรายังมีโอกาสที่จะตอบแทนพระคุณท่านจงทำซะก่อนที่ท่านไม่อยู่ให้เราได้ดูแล แล้วเมื่อถึงเวลานั้นเราก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้อีก

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ความโกรธ

ความโกรธเป็นสภาวะทางอาภรณ์ที่เกิดขึ้นแก่ทุกคนโดยไม่มียกเว้นแม้แต่คนเดียว อารมณ์รุ่นแรงบ้าง ไม่รุนแรงบ้าง ก็ขึ้นกับการมีสติที่รู้เท่าทันกับอารมณ์ที่มากระทบและรู้จักที่ควบคุมอารมณ์ตนเองให้ได้ด้วยสติและปัญญา
ความโกรธนั้น ถ้าเรามองพิจารณาให้ดีจะรู้ว่ามีแต่โทษมากกว่ามีคุณประโยชน์แก่ชีวิตของเรา
ตัวของข้าพเจ้าเองก็ยังมีความโกรธอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้วอารมณ์นี้ไม่มียกเว้น แต่ทุกครั้งเมื่อมีความรู้สึกไม่พอใจก่อนที่จะเป็นอารมณ์โกรธขอให้มองติดตามและเข้าใจอารมณ์โทสะของเราให้ได้อย่าให้จิตมันกำเริบ พยายามรักษาและเยียวยาด้วยสติ และ สัมปรัชญะให้เกิดอาการดับไปอาจจะเร็วบ้าง ช้าบ้างก็แล้วแต่กำลัง สติ ปัญญาที่ฝึกฝนมา
ดังคำกล่าวของพระพุทธองค์ที่ทรงกล้าวไว้ว่า "อักโกเธนะ ชิเน โกธัง" แปลว่าพึงเอาชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ
บางคนพออ่านประโยคนี้อาจคิดในใจว่า "ยากที่จะทำได้" แต่อยากจะบอกกับท่านทั้งหลายว่า น่าจะลองทำดูเพราะจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าหากเราจะเก็บอารมณ์โกรธไว้กับตัวเราเพราะมันจะทำร้ายร่างกายและจิตใจของเราเอง

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ความจริงในหลักธรรม

พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า การได้เกิดมาเป็นมนุษย์เป็นเรื่องยากลำบาก แม้ได้เกิดมาเป็นคนแล้วทำให้ชีวิตของเราเป็นสิ่งที่มีคุณค่า จงมองหาคุณค่าในตัวเองต้องรักษา ใส่ใจและให้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีจุดมุ่งหมายปลายทาง กาลเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป แต่ละวันควรจะให้หมุนเปลี่ยนไปอย่างมีความสำคัญ
การเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ของชีวิตนับตั้งแต่ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ขอให้ตระหนักอยู่เสมอเพราะช่วงจังหวะของเวลาในชีวิตมีแต่เดินหน้า ไม่มีถอยหลัง เวลาที่เดินผ่านไปนั้นจะสอนเราให้คิดทุกวินาที หากแต่เรามองไม่เห็นความจริงในการเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาชีวิตที่หมุนไป จึงไม่มีการเตรียมความพร้อม หากเราเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงแม้วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเราก็พร้อมที่จะยอมรับอย่างคนที่รู้เท่าทันตามความเป็นจริง

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552

ใบไม้

วันหนึ่งขณะที่ข้าพเจ้าได้เดินกลับบ้านเกิดมีลมพัดแรงเหมือนฝนกำลังจะตก แต่เมื่อลมได้สงบลงข้าพเจ้าได้มองเห้นใบไม้ที่ร่วงลงพื้นเนื่องจากแรงของกระแสลม มีทั้งใบไม้สีน้ำตาล ซึ่งมีอยู่เดิมหรือเป็นใบไม้ที่หลุดร่วงตามวงจรชีวิตของมัน ส่วนใบไม้สีเหลือง สีเขียวเข้ม และใบไม้สีเขียวอ่อนที่มีปนอยู่บ้าง ทำให้ข้าพเจ้ามองดูแล้วทำให้คิดว่านี่หรือคือสัจธรรมแห่งชีวิต เมื่อคนเราเกิดมาแล้วต้องตายบางคนต้องตายตามอายุขัยที่เป็นไปตามธรรมชาติ แต่บางคนยังคงน่าจะมีชีวิตที่ยืนยาวต่อไปอีก หรือควรจะทำประโยชน์ให้แก่ตนเองครอบครัว สังคม และประเทศชาติได้อีกมากมายแต่ทำไมจึงต้องมาจากไปก่อนวัยอันสมควร
ดังนั้น เมื่อเรายังมีชีวิตอยู่ ณ วันนี้ เดี๋ยวนี้ หากเรายังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์หรือ ทำในสิ่งที่มีคุณค่าที่ดีต่อตัวเราเอง ต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ขอให้ดิดใหม่ ทำใหม่ เริ่มต้นใหม่ที่ดี ทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพราะวันพรุ่งนี้ เราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา

" หากเกิดมาทั้งทีควรมีคุณค่า หากไม่นำพาชีวาก็หาไม่ "

วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2552

วัยรุ่นกับจริยธรรม

เด็กฯทุกคนเมื่อแรกเกิดมานั้นย่อมมี กรรมดีและกรรมชั่วติดตัวมากันทุกคนดังนั้นตัวแปรที่ทำให้กรรมดีและกรรมชั่วหรือจริยธรรมของเด็กเปลี่ยนไปคือการรับรู้โดยการเรียนรู้จากพฤติกรรมของสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัย จากครอบครัวไม่ว่าจะเป็นบิดา มารดาหรือบุคคลที่เด็กได้คลุกคลีอยู่ด้วยเป็นประจำ โดยยึดเอามาเป็นต้นแบบ
มีคำกล่าวไว้ว่าเด็กฯที่แรกเกิดมานั้นเปรียบเสมือนผ้าขาวที่สอาดบริสุทธิ์ หากเด็กได้รับคุณธรรม จากบิดา มารดาเด็กก็จะรับรู้และเลียนแบบพ่อ แม่ทั้งร่างกายและจิตใจ แต่หากเราเก็บเอาพ่อ แม่ใจร้ายความน่าสะพรึ่งกลัวไว้ในจิตใจมากเท่าใดนานวัน เขาจะแยกไม่ออกเลย เขาจะสร้างกลไลตัวควบคุมตนเองขึ้นมาทั้งภายในและภายนอก
สังคมปัจจุบัน พ่อ แม่ต้องทำงานหาเงินมากจนเกินควรไม่มีเวลาให้ลูก แต่ถ้าหากมีเวลาให้กับลูกบ้างก็ขอเป็นเวลาที่มีคุณภาพ เพื่อส่งเสริมวิถีชีวิตของเด็กที่จะต้องเติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพต่อสังคมและครอบครัว
การจะสอนลูกฯให้เป็นคนดีได้นั้นคือ ต้องมีเวลาและเป็นแบบอย่างที่ดี หากพ่อ แม่ สังคมควรจะสอนให้เขารู้จักคิดถึงการกระทำ และผลที่ได้รับจากการกระทำนั้นคือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2552

ไฟ

คำว่าไฟ ทุกคนคงต้องนึกถึงเปลวไฟอันร้อนแรง แต่นั่นก็คือความร้อนภายนอกเท่านั้นแต่ไฟที่ร้อนรนอยู่ภายในนั้น คือไฟในใจ หรือดวงจิตที่ร้อนรุ่ม ร้อนรน ทุกข์ทรมานมากมายแม้วันเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ไม่เคยจะหมดไฟแห่งความร้อนรน ถ้าสิ่งนั้นไม่ใช่ความคิด ความคิดของมนุษย์เราเป็นต้นตอของความทุกข์ยากและปัญหาต่างฯนานาที่รุมเร้าเข้ามา โดยที่หาทางออกไม่ได้ นั่นเป็นเพราะเราไม่เคยมองเข้าไปให้ถึงต้นเหตุความคิดซึ่งเป็นที่มาของทุกข์ ซึ่งไฟของกิเลสมีอยู่ ๓ ชนิด คือ
๑ ไฟแห่งโลภะ ความทุกข์ ในความอยากได้อยากมี ที่เกินกำลังของเราเองต้องหาวิธีมาสนองใจอยาก จนลืมว่าสิ่งที่กระทำนั้นเป็นสิ่งที่ผิดก็ตาม
๒ไฟแห่งโทสะ การปล่อยให้จิตใจถูกครอบงำด้วยความโกรธ กลุ้มรุ่มเร้า
๓ไฟแห่งโมหะ จิตอันหลงผิด อันโง่เขลา จิตใจคับแคบขาดปัญญาเป็นเครื่องพิจารณา
ไฟทั้ง ๓ นี้ ที่เผาใจให้มีแต่ความร้อนแก่ตนเองและผู้อื่นมีแต่ผลของความเสียหาย อย่าให้ไฟทั้ง ๓ นี้มาครอบงำเอาจนกลายเป็นคนหลงทาง หลงโลก