วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ทางไหนดี




เส้นทางเดินของชีวิตเรา บางครั้งก็เป็นเรื่องที่ยากที่จะเดินหรือว่าจะเลือกเส้นทางไหนดี เส้นทางเดินของชีวิตคนเรามี่อยู่ 2 เส้นทางเป็นเส้นคู่ขนานกันเสมอ คือทางดี กับ ทางไม่ดี เหมือนกับจิตใจกับความดิดก็แบ่งออกเป็น 2 ทางเหมือนกัน คือทางหนึ่งคิดดี ทางหนึ่งคิดไม่ดีทาง 2 เส้นนี้ไม่มีทางมาบรรจบกันได้เลย
การกระทำความดี หรือความชั่ว ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวเองเหมือนทาง 2 แพ่ง ที่กำลังคิดว่าจะเลือกทางไหนดี ทางหนึ่งมีแสงสว่าง อีกทางหนึ่งมีความมืดมัวจนกระทั่งมืดสนิทตลอดทางบางคนก็เลือกทางเดินสว่าง เพราะมองเห็นชัดเจนดีว่า จะมีอันตรายอะไรอยู่ข้างหน้าหรือเปล่า เพื่อที่จะหลบหลีกได้ และระวังตนเองไม่ให้เกิดอันตรายแต่บางคนก็อยากลองดูซิว่าในความมืดนั้นมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง ไม่ว่าเราจะเลือกเส้นทางเดินไหนก็ตาม ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรสุดท้ายแล้วก็อยู่ที่การมี สติ ปัญญา ในการเลือกในการตัดสินใจว่าจะเลือกเส้นทางไหนดี
ดังธรรมะของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ได้ทรงเมตตาให้คติธรรมไว้ว่า
ชีวิตนี้น้อยนัก แต่ชีวิตนี้สำคัญนัก
เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นทางแยก
จะไปสูง ไปต่ำ จะไปดี ไปร้าย
เลือกได้ในชีวิตนี้เท่านั้น
พึ่งสำนึกข้อนี้ให้จงดี
แล้วจงเลือกเถิด เลือกให้ดีเถิด

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้




ชีวิตคนเราเกิดมานั้นย่อมมีความแตกต่างกันไป บางคนรวย บางคนจน บางคนขาว และบางคนทำไมจึงดำแต่มีสิ่งที่เหมือนกันในความที่แตกต่างคือ การมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาในโลกใบนี้
แต่ชีวิตที่เกิดขึ้นมานี้ ไม่อาจจะเลือกเกิดได้ แต่เราสามารถเลือกเป็นได้ ถึงแม้เราเกิดมาไม่พร้อมแต่รู้จักใช้ชีวิต ใช้สติปัญญาในการดำรงชีวิต มีความขยันหมั่นเพียร ก็จะสามารถจะผลักดันตนเองให้เดินไปในทางที่ถูกต้องและจะนำชีวิตสู่ความก้าวหน้า มีความสุข และประสบความสำเร็จในชีวิตได้
ขอให้รู้จักแยกแยะ บาป บุญ คุณ โทษให้ได้ เพราะสติและปัญญามีติดตัวกันมาทุกคน เพียงแต่ให้เข้าใจและรู้จักนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดของชีวิตได้ เพียงแต่รู้ว่า
กรรมดีเมื่อกระทำแล้วจะเป็นบุญ เป็นคุณแก่ตนเองอย่างไร
กรรมชั่วเมื่อกระทำแล้ว จะเป็นบาปเป็นโทษแก่ชีวิตอย่างไร
ฉะนั้นไม่ว่าเราจะเกิดมาในฐานะใดก็ตามมิใช่เป็นสิ่งสำคัญ หรือเป็นอุปสรรคในการทำความดีแต่อย่างไดขอให้เรามีความมุ่งมั่น ทุ่มเท ในสิ่งที่ต้องการในทิศทางที่ถูกต้องด้วยตนเอง

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2551

กระจกวิเศษ




กระจกเอ๋ย.....เมื่อเรามองกระจกจะเห็นตัวเราเคยใหมที่จะถามตัวเองว่า "ทำไมตลอดเวลาจึงมองแต่ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความนึกคิด ความรัก ความโกรธ ความริษยา ความสุขและความทุกข์ทำไมเราจึงมีมากมายนักเหมือนไม่มีใครเห็นใจเราเลยไม่เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของเรา บางครั้งฉันเหงา ว้าวุ้นในจิตใจมากมาย ใครจะตอบและช่วยฉันได้นะ
กระจกวิเศษจะตอบแล้วนะ.......ความทุกข์และความสุขเหมือนกระจกเงาด้านเดียว เมื่อเรามองไปจะเห็นแต่ตัวเราเอง เห็นความทุกข์และความสุขอยู่ที่ตัวของเราเอง จึงมองไม่เห็นว่าใครจะเห็น หรือเข้าใจเรา เคยไหมที่จะมองกระจกที่มีมุมมองหลายมุม ลองดูซิจ๊ะจะเห็นว่าเรามองเห็นตัวเองอย่ตรงกลางกระจกชัดเจน แต่ด้านซ้าย-ขวา หรือมุมสะท้อนมุมอื่นๆของกระจกจะมีตัวเราอยู่ๆไม่เต็มพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้นมาอีกจากที่เรามอง ไม่เห็นในกระจกเงาด้านเดียวมาตลอด สิ่งที่เรามองเห็นใหม่นั้นย่อมแสดงให้เห็นว่ายังมีอะไรอีกหลายสิ่ง หลายอย่างที่เรายังไม่เคยรับรู้และสิ่งนั้นยังอย่เคียงข้างเราตลอดมาถ้าเรายอมรับ และพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่นำมาทบทวนดู จะรู้ว่าถ้าหากเราเปิดใจให้กว้างยอมรับความจริง และรู้ทันต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในความคิดเราก็จะเอาชนะมันได้ โดยที่ตัวเราไม่ต้องมองกระจกด้านเดียวอีกต่อไป เพราะยังมีด้าน หรือมุมอีกหลายมุมที่คอยช่วยเหลือเรา ถ้าเรารู้จักที่จะใช้มุมนั้นให้มีประโยชน์แก่ชีวิตเรา
มุมๆนั้นก็คือ สติ ที่อยู่กับตัวเรามาโดยตลอด ไม่ต้องซื้อหา รู้จักใช้สติให้เกิดปัญญาขึ้นมาก็จะแก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุของความทุกข์ได้
จงอย่าลืมนะจ๊ะ.......คนที่มีสติและปัญญา ย่อมเอาชนะอุปสรรคทั้งปวงได้

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551

3 ก้าวของชีวิต




เมื่อลูกยังเล็กอยู่เพิ่งจะหัดเดินครั้งแรกลูกจะต้องเริ่มหัดยืนก่อนเพื่อการทรงตัวไม่ให้ล้ม เพื่อเตรียมพร้อมที่จะก้าวเดิน ก็เปรียบเสมือนการเริ่มต้นชีวิตที่มีจุดมุ่งหมาย
เมื่อลูกยกเท้าขึ้นก้าวเดินครั้งแรก พ่อและแม่ตื่นเต้นมากกว่าครั้งแรกที่ลูกยืนอีกเพราะลูกเริ่มที่จะก้าวไปหาจุดหมายของลูกได้ พ่อกับแม่จะประคองลูกไม้ให้ล้มหรือบาดเจ็บ
ความตื่นเต้นอีกครั้ง เมื่อลูกเดินได้โดยไม่ต้องพยุงอีกนั่นคือ ลูกสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและช่วยเหลือตนเองได้แล้ว แต่สายตาของพ่อ และแม่ก็ต้องคอยระวังกลัวลูกจะวิ่งและหกล้ม บาดเจ็บแต่การล้มบ้าง ลุกบ้างในชีวิตมันไม่ใช่อุปสรรคและปัญหาในชีวิตถ้าลูกร้จักการต่อสู้หาโอกาสให้ตนเองเริ่มต้นใหม่อีกครั้งอย่างเฉลียวฉลาดกว่าเดิม และเอาความผิดพลาดมาเป็นครูของชีวิต
ความสำเร็จ และความก้าวหน้าในชีวิตต้องเกิดจากความอดทนกระทำทีละขั้นตอน สะสมความสำเร็จที่ละเล็กทีละน้อยจนถึงก้าวที่ต้องการ
พ่อและแม่จะคอยมองดูลูกอย่ข้างหลังนะ ขอให้ลูกก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงและมุ่งมั่นไปหาฝันให้พบนะลูก พ่อแม่จะเป็นกำลังใจให้ลูกตลอดไป.